มีคนกล่าวว่า ชีวิตคนเราไม่ต่างจากละคร และโลกนี้ก็เหมือนละครโรงใหญ่ ซึ่งผู้เขียนเห็นว่าคงจะไม่ถูกต้องนัก เพราะว่าละคร คือ การ แสดงที่ผู้แสดงไม่ต้องสร้างสรรค์อะไรมากนัก เพราะตัวละครทุกตัวจะเล่นไปตามบทที่ถูกที่เขียนไว้ และแสดงกิริยา อาการตามแต่ที่ผู้กำกับจะ ต้องการให้เป็น แต่ในชีวิตจริงทุกคนต้องสร้างสรรค์บท กำกับ และแสดงด้วยตัวเอง ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องง่ายที่คนเราจะดำเนินชีวิตให้ประสบ ความสำเร็จและราบรื่น
สำหรับปัจจัยอย่างหนึ่งที่ช่วยให้คนเราสามารถดำเนินชีวิตได้ราบรื่นและประสบความสำเร็จก็คือ การเรียนรู้ทุกอย่างที่จำเป็นและเกี่ยว ข้องกับการดำเนินชีวิต โดยไม่เกี่ยวกับการเรียนเพื่อให้ได้มาซึ่งปริญญาหรือวุฒิบัตรต่างๆ แต่เป็นการเรียนรู้ในชีวิตจริงอาจซึ่งได้แก่ การเรียนรู้ ในสิ่งต่อไปนี้ 1)เรียนรู้ตนเอง 2)เรียนรู้ผู้อื่น 3)เรียนรู้สังคมและการเปลี่ยนแปลง 4)เรียนรู้จังหวะและโอกาส 5)เรียนรู้คุณธรรมและ จริยธรรม 6)เรียนรู้ความจริงแห่งชีวิต ผู้ที่เรียนรู้ในเรื่องเหล่านี้มากก็จะประสบปัญหาในชีวิตน้อย และมีโอกาสประสบความสำเร็จมาก
เรียนรู้ตนเอง อยากให้ทุกคนลองถามตัวเองว่า ท่านรู้จักตัวเองมากน้อยแค่ไหน เชื่อเลยว่าหลายท่านอาจไม่มีคำตอบให้กับตัวเอง ว่า รู้จักตัวเองแค่ไหน รวมถึงผู้เขียนด้วยตรงนี้จำเป็นอย่างยิ่งเพราะ ถ้าเราไม่รู้จักตนเองก็จะไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ เช่น ถ้าเรารู้ตัวเองว่า หงุดหงิดง่าย ก็จะต้องเตือนตัวเองให้ใจเย็น หรือถ้าเป็นคนปากร้าย ก็จะต้องระวังคำพูด เป็นต้น ลักษณะเช่นนี้ย่อมทำให้เรามีปัญหา กระทบกระทั่งกับผู้อื่นน้อยลง
เรียนรู้ผู้อื่น เราไม่ได้อยู่คนเดียวในโลก มีครอบครัว มีสังคมในที่ทำงานและสังคมอื่นๆ ดังนั้นเราต้องเรียนรู้คนที่อยู่รอบตัวเราโดย เฉพาะอย่างยิ่งคนที่เราจะต้องปฏิสังสรรค์ด้วยเสมอในชีวิตประจำวัน เราจำเป็นต้องรู้จักให้มาก เพราะการที่เรารู้จักคนเหล่านี้มากเท่าไรก็จะ ยิ่งทำให้เราสามารถควบคุมสถานการณ์ของการอยู่ร่วมกันได้มากเท่านั้น
เรียนรู้สังคมและการเปลี่ยนแปลง เราต้องตระหนักว่า สังคมและข้อมูลต่างๆ เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา การที่เรามีข้อมูลที่ถูกต้อง เป็นปัจจุบันย่อมช่วยให้สามารถตัดสินใจในเรื่องราวต่างๆ ของการดำเนินชีวิตได้อย่างเหมาะสม ถูกต้องและเที่ยงตรง
เรียนรู้จังหวะและโอกาส เราต้องเรียนรู้จังหวะชีวิต เพราะในการดำเนินชีวิตของเราไม่สามารถควบคุมปัจจัยต่างๆ ได้ ดังนั้น การดำเนินชีวิตต้องอาศัยจังหวะและโอกาสที่เหมาะสม ต้องรู้จักรุกเมื่อโอกาสเอื้ออำนวย และรู้จักถอยเมื่อโอกาสไม่เอื้ออำนวย ไม่ใช่รุกตลอด เวลา การที่เราพยายามทำอะไร ในบรรยากาศหรือสถานการณ์ไม่เอื้ออำนวย นอกจากจะต้องใช้ทรัพยากรมากแล้ว บางครั้งอาจนำมาซึ่งความ ขัดแย้งและผลเสียหายกับตนเองและผู้อื่น
เรียนรู้คุณธรรมและจริยธรรม ธรรมะค้ำจุนโลก เป็นคำกล่าวที่เป็นจริง เพราะผู้ที่ขาดซึ่งคุณธรรมและจริยธรรมย่อมทำให้ตน เองและผู้อื่นเดือดร้อน ตัวอย่างย่อมมีให้พบเห็นเสมอ เช่น คนที่เป็นพ่อเป็นแม่ หากขาดคุณธรรมในเรื่องของความรับผิดชอบก็ไม่อาจสามารถ เลี้ยงดูบุตรให้เติบโตเป็นคนดีและมีคุณภาพ หรือหากใครที่ขาดคุณธรรมในเรื่องความเกรงกลัว และละอายต่อบาป ก็ย่อมจะไม่ยี่หระต่อการทำ ผิดศีลธรรม นั่นย่อมนำมาซึ่งความเดือดร้อนเสียหายแก่ตนเองหรือผู้อื่น
เรียนรู้ความจริงแห่งชีวิต ต้องรู้ว่าแห่งความเป็นจริงนั้นมีสองด้านเสมอ เช่น มีสุข - ทุกข์ มีสมหวัง - ผิดหวัง มีดีใจ - มีเสียใจ มีการให้ - มีการรับ มีสวย - มีขี้เหร่ มีรวย - มีจน เป็นต้น ดังนั้นเมื่อสิ่งที่ประสบไม่เป็นไปอย่างที่คิดหรือคาดหวังก็ให้เข้าใจว่า นั่นคือความ จริงแห่งชีวิต ที่ต้องรับให้ได้ เพื่อที่จะปรับและแก้ไขให้เหมาะสมกับสถานการณ์และชีวิตของเรา
สุดท้ายผู้เขียนอยากฝากบอกว่า ในกล้วยไม้หนึ่งช่อนั้น แต่ละดอกก็บานไม่พร้อมกัน ดังนั้นชีวิตคนเราเองก็คงไม่อาจ ประสบความสำเร็จได้พร้อมกันทั้งหมด ใครที่ถึงพร้อมด้วยเหตุและปัจจัยก่อน ย่อมประสบความสำเร็จไปก่อน เหมือน กล้วยไม้ดอกแรกของช่อที่สมบูรณ์พร้อมก่อนย่อมบานก่อน ดังนั้นการดำเนินชีวิตจะต้องอาศัยการเรียนรู้ดังที่กล่าวมา เพื่อสะสมเหตุและปัจจัยที่จะนำไปสู่ความสำเร็จให้เพียงพอ .