ดร.เทียม
โชควัฒนา
- รู้น้อยไม่เกี่ยงงาน คนเราหากมีความรู้น้อยต้องไม่ท้อถอย
หรือ เลือกงาน เพราะการทำงานคือหนทางเพิ่มความรู้และประสบการณ์
- เที่ยงธรรมและเยือกเย็น ผู้บริหารที่ดีต้องปกครองคนด้วยความเที่ยงธรรม
และ สุขุมเยือกเย็นเป็นสำคัญ
- ขยัน อดทน รักษาเครดิต คบคนดี
อย่าเอาเปรียบใคร และ ไม่สร้างศัตรู คนที่จะประสบความสำเร็จในชีวิต
ต้องมีความขยัน อดทน ประพฤติตนน่าเชื่อถือ รู้จักคบคนดีเพราะคนดีย่อมนำพาไปสู่สิ่งดีๆ
และที่สำคัญไม่ควรเอาเปรียบหรือเป็นศัตรูกับผู้อื่น
- เป็นร่มเงาให้ประโยชน์สุข ต้นไม้ใหญ่ให้ร่มเงาและอุดมด้วยดอกผลอันเอื้อประโยชน์แก่ผู้ปลูกทำนุบำรุง
และคนทั่วไปฉันใด องค์กรที่เจริญเติบโตมั่นคง ย่อมควรจะเอื้อประโยชน์และเกื้อกูลแก้บุคคลากรและสังคมฉันนั้น
- รักตนเอง รักครอบครัว รักบริษัทฯ
บุคคลใดดำเนินชีวิตด้วยพื้นฐานจากพลังแห่งความรัก ในตนเอง ครอบครัว และองค์กรเป็นสำคัญ
บุคคลนั้นย่อมประสบความสำเร็จที่ยั่งยืนทั้งในชีวิตส่วนตัว และ ชีวิตการทำงาน
- ความรู้เหมือนดาบ ยิ่งใช้ยิ่งคม ผู้ใดมีความรู้แล้วนำความรู้ของตนมาใช้
และถ่ายทอดให้ผู้อื่น ผู้นั้นจะยิ่งเกิดความชำนาญ
และเป็นการเพิ่มคุณค่าแห่งความรู้นั้นด้วย เปรียบเสมือนดาบที่ถูกนำมาใช้ประโยชน์
และได้รับการเอาใจใส่ดูแล ให้คงไว้ซึ่งความคมตลอดเวลา
- เรียนรู้สิ่งใด เรียนรู้จากคน เรื่องราวทุกอย่างคนเป็นผู้สร้างขึ้น
ดังนั้น ถ้าต้องการเรียนรู้สิ่งใดให้เรียนรู้จากคน ซึ่งล้วนเป็นขุมทรัพย์แห่งความรู้
และประสบการณ์
- การใช้โทสะ มีแต่สร้างความรุนแรง
การใช้โทสะเข้าตัดสินปัญหา ไม่เกิดผลดีกับใครเลย
มีแต่สร้างความรุนแรงเพิ่มขึ้น
- ไม่แล่เนื้อเถือหนังพวกพ้อง อดอยากแค่ไหน
จงทำตัวเป็นเสือ ไม่แล่เนื้อเถือหนังพวกเดียวกัน
แต่ต้องพยายามเป็นผู้ช่วยเหลือผองเพื่อนจะดีกว่า
- ทบทวนอดีต ศีกษาปัจจุบัน
เพื่อวางอนาคต การทบทวนประสบการณ์จากอดีต ทั้งของตนเองและผู้อื่น และการศึกษาเรื่องราวจากคนและสิ่งรอบข้างในปัจจุบัน
เป็นแนวทางให้เราวางอนาคตได้ถูกต้อง แม่นยำยิ่งขึ้น
- มากคน มากวาสนา คนเราทุกคนล้วนมีวาสนาบารมี
ถ้าทุกคนเอาวาสนาบารมีมารวมกัน บริษัทฯก็จะเจริญก้าวหน้า
- อย่าปล่อยชีวิตให้หมดไปอย่างไร้ค่า
คนเราถ้าเข้าใจการจากไปอย่างไม่ย้อนกลับของเวลา
ย่อมใช้ชีวิตในแต่ละช่วงอย่างมีค่า
- เร็ว ช้า หนัก เบา ในการทำงาน ควรหมั่นพิจารณาอยู่เสมอว่า
งานไหนทำก่อน งานไหนทำทีหลัง งานไหนต้องจริงจัง และ งานไหนที่พอควร
- ความสำเร็จย่อมเป็นของผู้มีความเพียร
อยากประสบความสำเร็จในชีวิตการทำงาน ต้องพาตัวเข้าหางาน อย่าคอยให้งานมาหาตัว
เพราะงานคือทุกอย่างของชีวิต ที่เราต้องพากเพียรและพยายามทำตลอดไป
- ไม่มีอะไรเกินความพากเพียรของมนุษย์
คนเราถ้าไม่นิ่งนอนใจ แต่เพียรพยายามใช้สติปัญญาต่อสู้อย่างเต็มกำลังแล้ว
ในที่สุดเราก็จะเป็นผู้มีชัยชนะ
- ความสำเร็จของงาน
อยู่ที่คุณภาพของคน หัวใจในการทำงานให้สำเร็จ มิใช่อยู่ที่การสร้างคนให้มีความเชี่ยวชาญในการทำงานเท่านั้น
แต่ต้องรวมถึงการสร้างเสริมให้ทุกคนอยู่ร่วมกันด้วยความรัก และความสามัคคีด้วย
- แค่หยุดอยู่กับที่
ก็กลายเป็นผู้ล้าหลัง นักธุรกิจต้องเป็นคนไม่หยุดนิ่งเพียงวันนี้
แต่ต้องมีการปรับเปลี่ยนให้ทันสมัย ทันโลก
พร้อมที่จะก้าวสู่วันพรุ่งนี้ได้เสมอ
- ชมเกินจริงเป็นโทษ
ดีเกินเหตุเสียน้ำใจ การชมเชย อย่าให้เขาเกิดความหลงระเริง
จนอาจลืมตัวกับความสำเร็จ ก่อให้เกิดความประมาท
ที่อาจนำไปสู่ความล้มเหลวในอนาคตได้ การติ ต้องทำด้วยจิตใจที่หวังดีและใช้คำพูดที่สร้างสรรค์
- ผู้ที่ยิ้มแย้มแจ่มใส
มักเป็นที่รักใคร่ของคนทั่วไป ความเป็นคนมีอารมณ์ดี ยิ้มแย้มมีชีวิตชีวานั้น
เป็นเสน่ห์ของมนุษย์อย่างแท้จริง
- ทำดีเปรียบการเดินทวนกระแสน้ำ
ทำชั่วเปรียบการลอยตามน้ำ การทำความดีเปรียบเหมือนปลาว่ายทวนน้ำ ขึ้นไปที่สูงจะพบแต่น้ำที่ใสสะอาดฉันใด
คนที่พยายามทำความดีแม้จะลำบากยากเย็น ก็ย่อมพบชีวิตที่ดี สะอาดสดใส อันเป็นมงคลแก่ตนเองฉันนั้น
- มนุษย์สัมพันธ์
คือพื้นฐานของความสำเร็จ องค์กรจะเจริญรุ่งเรืองได้
บุคคลในองค์กรต้องมีมนุษย์สัมพันธ์ที่ดี มีความสุภาพอ่อนโยน
รู้จักข่มอารมณ์และให้อภัยซึ่งกันและกันเสมอ
- ความก้าวหน้าที่แท้จริง
ย่อมเกิดจากฝีมือการทำงาน ความก้าวหน้าที่ได้มาจากความสามารถในการทำงาน
จะให้ผลที่จีรังยั่งยืน
- งานสำเร็จได้ดี เพราะทีมงานดี การประสานพลังใจและพลังความคิดของทีมงานที่ดี
นำมาซึ่งความสำเร็จของงาน
- อดทนและอดกลั้น
นำไปสู่ความสำเร็จ คนที่อดทนต่อปัญหาและอุปสรรคต่างๆ ได้ดีกว่าคนอื่น
จะเป็นคนที่ประสบความสำเร็จในชีวิต
- อยากขยายใหญ่ ใจต้องกว้าง
ในการถ่ายทอดความรู้ให้ลูกน้อง การขยายกิจการให้ใหญ่โต
ต้องอาศัยพลังความสามารถ ความรู้ และความคิดจากทุกคน ฉะนั้น
หัวหน้างานต้องใจกว้าง หมั่นสอนและฝึกฝนความชำนาญให้ลูกน้องเสมอ
- คนคือทรัพยากรที่มีค่าที่สุดในโลก
คนเป็นทรัพยากรอย่างหนึ่งของโลก แต่คนจะมีคุณค่ายิ่ง
หากรู้จักประพฤติตนให้เป็นประโยชน์ต่อสังคม และสิ่งแวดล้อม
- ความรู้ต้องมองสูง
ความเป็นอยู่ต้องมองต่ำ ความรู้เปรียบเสมือนขุมทรัพย์
คนที่อยากก้าวหน้าต้องใฝ่รู้ เรียนรู้ให้มากขึ้นอยู่เสมอ
แต่ความเป็นอยู่นั้นต้องเรียบง่าย ไม่ฟุ้งเฟ้อ
- ความรักและความเข้าใจกัน
เป็นความสุขอย่างยิ่งของผู้มีภูมิปัญญา คนที่มีภูมิปัญญา
จะมีความสุขอย่างแท้จริง หากรู้จักทำงานร่วมกับผู้อื่น
ด้วยความรักและความเข้าใจที่ดีต่อกัน
- ศึกษาคนเพื่อมอบงาน ให้เหมาะกับความสามารถ
หัวหน้างานที่ดีต้องเป็นคนช่างสังเกตและใกล้ชิดลูกน้อง สามารถวิเคราะห์ได้ว่า
งานใดเหมาะกับความสามารถของลูกน้องคนใด เพื่อมอบหมายงานให้ตรงกับความสามารถของเขา
- ความประมาท ความหลงตัวเอง
อาจนำไปสู่ความพินาศ การกระทำสิ่งใดโดยขาดความระมัดระวัง และคิดว่าตนเองเก่งเหนือผู้อื่นเสมอ
อาจนำมาซึ่งความล้มเหลว แต่หากกระทำสิ่งใดด้วยความรอบคอบ และอ่อนน้อม ย่อมนำไปสู่ความสำเร็จ
- เข็มเล่มหนึ่ง
ไม่มีปลายแหลมสองด้าน ทุกคนมีทั้งจุดเด่นและจุดด้อย
คนเราจึงไม่มีใครเก่งทุกอย่าง เปรียบเสมือนเข็มที่มีปลายแหลม สำหรับเย็บ ปะ
ชุน ได้เพียงด้านเดียว ฉะนั้น คนเราควรรู้และทบทวนจุดเด่น
และจุดด้อยของตนอยู่เสมอ
- หนังฉายซ้ำไม่ตื่นเต้น
ตลกมุขเก่าไม่มีคนฮา งานทุกงานควรต้องได้รับการปรับปรุงและพัฒนาให้ดีขึ้น
และสอดคล้องกับวันเวลาที่เปลี่ยนไปเสมอ
- ผู้เป็นพนักงานขายที่ดี
ใช่ว่าจะเป็นซุปเปอร์ที่ดีได้เสมอไป ผู้มีความสามารถสูงในงานอย่างหนึ่ง
ใช่จะทำงานอีกอย่างหนึ่งได้ดีเสมอไป ดังนั้น ผู้จะเป็นหัวหน้าที่ดีได้
นอกจากจะต้องทำงานเก่งแล้ว ต้องเข้าใจวิธีสอนและปกครองคนด้วย (ซุปเปอร์ หรือ ซุปเปอร์ไวเซอร์ = Supervisor
/ หัวหน้างานขาย)
- หมั่นเล่าสร้างความจำ
หมั่นซักถามสร้างความรู้ เมื่อได้เรียนรู้สิ่งใดแล้ว
หมั่นถ่ายทอดให้ผู้อื่นรับรู้ด้วย จะช่วยให้เราจำได้ดีขึ้น
และเมื่อไม่รู้สิ่งใดก็อย่าอายที่จะถาม เพราะจะช่วยให้เรารู้มากขึ้น
ในขณะที่โอ้อวดว่ารู้หมดแล้ว แท้จริงคือคนที่ไม่รู้อะไรเลย
- มอง ฟัง คิด ถาม พื้นฐานของการเรียนรู้
พื้นฐานที่ดีของการเรียนรู้ต้องอาศัยทั้งการมอง ฟัง คิด ถาม ประกอบกัน อย่าเพียงแต่มอง
ฟัง หรือ ถาม แล้วนำมาใช้โดยไม่มีการคิดไตร่ตรอง หาเหตุผลเสียก่อน
- ความเป็นเพื่อนเป็นสิ่งที่ดีงามที่มนุษย์จะพึงปฎิบัติต่อกัน
คนเราจะมีความสุขในชีวิต หากรู้จักมอบความเป็นเพื่อนให้แก่คนรอบข้าง
รู้จักช่วยเหลือเกื้อกูลกันอย่างจริงใจ โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน
- เป็นคนต้องรู้จักตัวเอง การหมั่นสำรวจตัวเอง
ย่อมทำให้คนเรารู้จุดอ่อนจุดแข็งของตนเอง สามารถแก้ไขข้อบกพร่อง
และพัฒนาตนเองได้ถูกต้องเสมอ
- พลังกายในวัยหนุ่มมีเหลือเฟือ
ควรใช้ให้คุ้มค่า เกิดเป็นคนต้องใช้ชีวิตคุ้มค่าต่อตนเอง ต่อผู้อื่น
และต่อสังคม อย่าให้มีช่วงเวลาใดที่ต้องรู้สึกเสียดาย
ที่ให้เวลาผ่านไปอย่างไร้ประโยชน์
- การแข่งขันบังคับให้ต้องใช้สมอง การแข่งขันคือ
การที่ทำให้คนเราต้องคิดและตื่นตัวเสมอ ทำให้เกิดการพัฒนาความสามารถตลอดเวลา
- อารมณ์ชั่ววูบ
อาจทำลายมิตรภาพที่ยืนยาวได้ การแก้ปัญหาโดยขาดสติ
หรือใช้อารมณ์ก่อให้เกิดความรู้สึกไม่ดีระหว่างกัน
และอาจลุกลามไปสู่ความบาดหมางกันได้
- การพูดจาอ่อนน้อมถ่อมตนทำให้คนยอมรับ
การรู้จักอ่อนน้อมถ่อมตน ช่วยให้เราครองใจผู้อื่นได้
- ความคิดสร้างสรรค์
คือพื้นฐานสำคัญของผู้ประกอบการค้า ในการทำธุรกิจ
ต้องพัฒนาความคิดสร้างสรรค์อยู่เสมอ เพราะการผูกติดกับความคิดเก่าๆ
ในขณะที่เวลาเปลี่ยนไปนั้น เป็นการปิดกั้นความเจริญก้าวหน้าของธุรกิจ
- อย่าหลงเชื่อคำกล่าวของผู้อื่น
โดยขาดสติและความรอบคอบ ก่อนที่จะเชื่อหรือคล้อยตามคำพูดใดๆ ของผู้อื่น
ต้องใช้สติไตร่ตรองด้วยเหตุและผลอย่างรอบคอบเสียก่อน
- เป็นคนต้องรักตัวเองในทางที่ถูก คนที่รักตัวเองอย่างแท้จริง
คือคนที่สร้างคุณค่าให้ตนเองอย่างสม่ำเสมอ ด้วยการหมั่นศึกษาพัฒนาตนเอง
ดำรงชีวิตอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดี มีเพื่อนที่ดี
และหลีกหนีให้ห่างไกลจากอบายมุข
- หากอยากมีอนาคตที่มั่นคง
จงอย่าห็นแก่ตัว คนดีย่อมไม่เห็นแก่ตัว
ชอบช่วยเหลือผู้อื่นโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน
คนเช่นนี้สมควรได้รับการสนับสนุนให้ได้ดีมีอนาคต
- การศึกษาข้อบกพร่องของตน
ทำให้เรารู้จักตัวเองและผู้อื่นดีขึ้น คนเรามีข้อบกพร่องในตนเองทุกคนไม่มากก็น้อย
ฉะนั้น ให้เรารู้จักพิจารณาข้อบกพร่องของตนเองด้วยปัญญา จะทำให้เกิดการปรับปรุงและพัฒนาตนเอง
และช่วยให้เข้าใจผู้อื่น ที่เขาอาจมีข้อบกพร่องเช่นเดียวกับเรา
- ไม่มีใครเก่งแต่เพียงผู้เดียว ทุกคนภายในองค์กรเปรียบเสมือนเฟืองจักรกลแต่ละชิ้น
ในเครื่องจักรขนาดใหญ่ที่ต้องทำงานประสานกัน ถ้าเฟืองชิ้นใดชำรุดหรือบกพร่อง
เครื่องจักรก็ไม่สามารถทำงานได้ นั่นคือ งานใดๆ จะสำเร็จด้วยดีต้องอาศัย
ความสามารถและการประสานงานของทุกคนในทีมงาน มิใช่สำเร็จได้ด้วยคนเพียงคนเดียว
- ผู้มีความคิดวิจารณญาณ
จะก้าวทีละขั้นอย่างมั่นคง การขยายแนวธุรกิจอย่างมั่นคง ต้องอาศัยการพิจารณา
อย่างรอบคอบถึงหลักการและกระบวนการ ปรับปรุงระบบการทำงานอย่างเป็นขั้นเป็นตอน
- อย่าเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตน
จนขาดมนุษยธรรม คนที่ทำธุรกิจแบบไร้คุณธรรมเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตนย่อมจะหาความสุขใจและความเจริญในชีวิตได้ยาก
- แม้นจะลำบากเพียงใดก็ย่อมฟื้นคืนเป็นดีได้
จงคิดเสมอว่า คนเรานั้นแม้จะประสบความล้มเหลว ก็ย่อมสามารถปรับปรุงให้กลับคืนดีได้
หากไม่ท้อแท้ต่อโชคชะตา และคิดเสมอว่า เมื่อล้มแล้วก็สามารถลุกขึ้นยืนได้อยู่เสมอ
- สร้างคนต้องใช้เวลา การสร้างคนเหมือนปลูกต้นไม้ใหญ่
ต้องอดทนใช้เวลานาน ไม่เหมือนการปลูกถั่วงอก ซึ่งวันเดียวก็เห็นผล
- เมื่อจะแหงนมองฟ้า
ก็อย่าลืมว่าเท้าตัวเองสัมผัสดินอยู่ คนเราต้องเตือนตนเองไม่ให้ลืมตัว
อย่าทะนงว่าตนนั้นเลิศเลอไปกว่าคนอื่น จงคิดเสมอว่าในโลกนี้มีคนที่ดีกว่าเราอีกมาก
- จะให้ลูกน้องกล้าตัดสินใจ
ผู้ใหญ่ต้องรับผิดชอบความเสี่ยง เมื่อเห็นว่าลูกน้องสามารถทำงานได้
ต้องมอบให้เขาทำ ถ้าเขาทำผิดพลาด เราก็ต้องช่วยรับผิดชอบด้วย
- ปลูกต้นไม้ใหญ่
อย่าเก็บผลไว้กินแต่เพียงผู้เดียว การทำงาน เมื่อประสบความสำเร็จแล้ว
ควรแบ่งปันผลประโยชน์ให้ผู้อื่นและส่วนรวมด้วย
- ความรักเป็นความสุขเหนือทรัพย์สินเงินทอง
คนที่มีความรัก มีจิตใจดี และมองโลกในแง่ดี จะมีความสุขยิ่งกว่าสิ่งใดๆ
- มองกระจกที่มีปรอท
จะไม่เห็นอะไรอื่นนอกจากตัวเอง คำว่า “ปรอท” ภาษาจีนใช้คำว่า “สุ่ยหยิน”
หมายถึง เงินเหลว คนจีนเปรียบคนที่เห็นแก่ตัวไม่เห็นใจผู้อื่น
คิดถึงแต่ตนเอง เหมือนคนที่มองแต่กระจกฉาบปรอท ซึ่งไม่มีวันที่จะเห็นสิ่งอื่น
นอกจากตนเองเท่านั้น
- การล่าช้ามิได้หมายความว่าเป็นผู้ล้าหลัง
อย่ารีบร้อนเพราะกลัวว่าจะล้าหลังคู่แข่ง ควรพิจารณาด้วยความรอบคอบ
จะได้ไม่ผิดพลาด
- ชนะใจมิตรและศัตรูได้
คือผู้ชนะที่แท้จริง ชนะสิ่งใดก็ไม่มีความหมายเท่าชนะใจ ทั้งมิตรและศัตรู
- กินข้าวอย่างมังกร
ทำงานอย่างเสือ คนจีนมองมังกรเป็นสัตว์ที่สง่างาม ฉะนั้นถ้าจะทำอะไรรวดเร็วก็ต้องเร็วแบบสง่างาม
ส่วนเสือนั้นคนจีนมองว่าปราดเปรียวในการล่าเหยื่อ และไม่กินลูกตัวเอง หมายถึงให้ทำงานอย่างคล่องตัว
ทำงานเป็นทีม และไม่รังแกพวกเดียวกัน
- ตักน้ำเต็มได้แค่ภาชนะบรรจุเท่านั้น
ในการดำเนินธุรกิจ ถ้ารู้จักเสียสละแบ่งปันผลประโยชน์ให้ผู้อื่นหรือสังคม รวมทั้งจ่ายภาษีให้รัฐได้พัฒนาประเทศอย่างเต็มที่
ธุรกิจก็จะเจริญรุ่งเรืองขยายกิจการใหญ่ขึ้นได้ อุปมาเหมือนภาชนะที่มีน้ำเต็มแล้ว
ตักน้ำออกไปทำประโยชน์ที่อื่นบ้าง ก็จะมีโอกาสจะตักน้ำเติมเข้ามาได้อีก
และมากขึ้นเรื่อยๆ จนในที่สุดก็มีโอกาสที่จะเพิ่มจำนวนภาชนะ
หรือขยายขนาดภาชนะให้ใหญ่ขึ้นได้
- สะสมลาภ ยศ ความดี
เพื่อประโยชน์ในภายภาคหน้า ถ้าจะให้ชื่อเสียงดี มีเกรียติยศ มีภาพพจน์ดี
เป็นที่รับรู้ของคนทั่วไปในอนาคต ต้องกระทำความดีอย่างสม่ำเสมอ
- เดินเร็ว
ฝีเท้าย่อมไม่สวยและอาจหกล้มได้ จะก้าวให้มั่นคงและกิจการไม่ล้มเหลวต้องรอบคอบเสมอ
- เกรียติที่สูง
ไม่จำเป็นต้องให้ตัวเองอวดอ้าง ถ้าเราทำตัวเหมาะสมกับคนที่มีเกรียติแล้วไม่อวดอ้าง
คนอื่นก็จะมอบเกรียติให้เราเอง
- การช่วยเหลือผู้อื่น
และมองคนในแง่ดี ทำให้เกิดสุขทางใจ การทำบุญ ทำทาน ช่วยเหลือผู้อื่น
มองหรือคิดถึงผู้อื่นในแง่ดี ทำให้จิตใจของตนดีและมีความสุขได้
- ผู้ที่เป็นผู้นำได้
ต้องผ่านความลำบากมาก่อน คนที่เคยลำบากมาแล้วย่อมเป็นหัวหน้างานที่สามารถให้กำลังใจกับลูกน้องได้ดี
- ทำงานมากก็ผิดพลาดมาก
ทำน้อยก็ผิดพลาดน้อย คนเราทำงานก็ต้องมีการผิดพลาดบ้าง คนที่ไม่มีความผิด
ก็คือคนที่ไม่ได้ทำอะไรเลย
- หากดีแต่พูด ไม่ลงมือทำ
ความคิดก็ไม่อาจเป็นจริงได้ เมื่อไม่ลองปฏิบัติก็ไม่รู้ว่าที่คิดนั้นทำง่ายหรือยาก
งานบางอย่างอาจพูดง่ายแต่ทำยาก
- การทำงาน ต้องมีเป้าหมาย การทำงานโดยไม่มีเป้าหมาย
เหมือนคนที่ไม่มีจุดมุ่งหมายของชีวิต
- เราพูดด้วยความโมโหเพียงครั้งเดียว
แต่อยู่ในใจของคนอื่นตลอดชีวิต การพูดโดยใช้อารมณ์ ไม่ใช่สติไตร่ตรองเสียก่อน
แม้เพียงครั้งเดียวก็อาจทำลายทั้งตนเอง และมิตรภาพได้ตลอดไป
- ความใกล้ชิด
ย่อมนำมาซึ่งความเข้าใจ และผลของงานที่ดี การทำงานใกล้ชิดกับลูกน้อง
หัวหน้านอกจากมีโอกาสศึกษาผลของงานแล้ว ยังได้ศึกษานิสัยการทำงานของลูกน้องด้วย
- ทำการค้าต้องเดินสายกลาง
ยึดหลักมั่นคงไว้ก่อน ทำการค้าอย่าลงทุนเกินตัว ต้องเก็บส่วนหนึ่งไว้
เป็นความมั่นคงของตนเอง และครอบครัวด้วย
- ผิดครั้งแรกเป็นครู
แต่ผิดซ้ำสองนั้นถือว่าโง่ คนเราทำงานก็ต้องผิดพลาด แต่สิ่งสำคัญต้องจดจำความผิดนั้น
นำมาวิเคราะห์หาสาเหตุ ถ้าผิดซ้ำซากก็เหมือนคนที่หาบทเรียนจากประสบการณ์ไม่ได้
- คนจะโง่ หรือ ฉลาด ดูได้จากคำพูด
คำพูดเปรียบเหมือนประตูของจิตใจ คนโง่จะพูดเรื่องที่ขาดหลักคิดและเหตุผล
ในขณะที่คนฉลาดจะมีเหตุผลและหลักคิดที่ดี
- ไม่มีใครเคยตายเพราะงานหนัก ในการทำงาน
ให้ยึดหลักว่าทำเข้าไปเถิดสิ่งที่ว่ายาก เพราะยิ่งทำสิ่งที่ยากมาก
หรือหนักมาก ก็ยิ่งรู้มาก
- ชีวิตการศึกษา
ต่างจากชีวิตการทำงาน ในชีวิตการศึกษา เราจะรับความรู้จากครูบาอาจารย์
คนที่จบการศึกษาใหม่ๆ มักจะยึดติดกับทฤษฏีที่ร่ำเรียนมา เปรียบเสมือนมีศีรษะและความคิดเป็นรูปสี่เหลี่ยม
มีด้านและมุมที่ตายตัว จึงเข้ากับผู้อื่นได้ยาก แต่ในชีวิตการทำงาน
เราต้องหาความรู้จากสิ่งรอบข้างและประสบการณ์ แล้วถ่ายทอดต่อให้ผู้อื่น
จึงต้องปรับตัวเข้ากับผู้อื่นให้ได้ เปรียบเหมือนพัฒนาศีรษะและความคิดของตน
จากรูปสี่เหลี่ยมให้เป็นทรงกลม ทรงรี และ ทรงแหลมในที่สุด เพราะรูปทรงแหลม
สามารถสอดแทรกไปได้ง่าย หมายความว่าคนผู้นั้นมีความสามารถปรับตัวเข้ากับผู้อื่นได้
- ตระกูลที่สะสมแต่กรรมดี
ย่อมประสบแต่สิ่งสิริมงคล ชีวิตของคนเราต้องทำแต่สิ่งที่ดีงาม จึงจะเจริญ
- ความรู้มีอยู่ทุกหนแห่ง
อยู่ที่เราจะรับรู้หรือไม่ เราหาความรู้ได้ทุกหนแห่งทุกเวลา
อยู่ที่เราจะเก็บเกี่ยวอย่างไรและเมื่อไร บางคนมีความสามารถในการเก็บเกี่ยวซึมซับความรู้
จากสิ่งแวดล้อมและประสบการณ์ อาจมีความรู้มากกว่าคนที่จบจากมหาวิทยาลัยเสียอีก
และบางครั้งความรู้ที่ได้จากสถานการณ์จริง และประสบการณ์นั้น สามารถทำมาใช้ในชีวิตได้ดีกว่า
- หัวหน้าที่ดีต้องรู้จักชื่นชมลูกน้อง
หัวหน้างานที่ค้นหาจุดเด่นของลูกน้องแล้วชมเชย
จะเป็นกำลังใจให้ลูกน้องหมั่นทำความดีต่อไป แต่หัวหน้างานที่คอยแต่จะค้นหาจุดด้อยมาตำหนิ
จะทำให้ลูกน้องหมดกำลังใจ กล่าวได้ว่าเป็นคนที่มองไม่เห็นคุณค่าของลูกน้อง
- ร่างกายต้องการอาหารกายฉันใด
จิตใจต้องการอาหารใจฉันนั้น ขณะที่ร่างกายของคนเราต้องการอาหารเพื่อเป็นพลังในการมีชีวิต
จิตใจของคนเราก็ต้องการความรู้และหลักคิดที่ดี เพื่อเป็นพลังในการเป็นคนดี
มีจิตใจดีเช่นกัน
- ปลูกต้นไม้ใหญ่ใช้เวลาร้อยปี
สร้างคนใช้เวลาสิบปี การจะสร้างสิ่งหนึ่งสิ่งใดให้แข็งแกร่งมีคุณค่า
ต้องใช้ความอดทน ใช้เวลา โดยเฉพาะการสร้างคนหนึ่งคนให้เก่ง
ยิ่งต้องใช้ความอดทนและใช้เวลามาก ทั้งตัวผู้สร้างและผู้ถูกสร้าง
เพราะนั่นหมายถึง การสร้างให้คนคนนั้นเพียบพร้อมทั้งความรู้ ความสามารถ
และประสบการณ์
- ทำคุณให้ผู้อื่นต้องลืม
ผู้อื่นทำคุณให้ต้องจำ หากเราเคยทำประโยชน์หรือช่วยเหลือใครไว้
อย่าจดจำหรือคาดหวังการตอบแทน เพราะอาจไม่ได้ดังที่หวัง หรือ
เผลอไปทวงบุญคุณให้เขาเสียความรู้สึก แต่ถ้ามีใครช่วยเหลือเราต้องจดจำให้แม่น
เพื่อหาโอกาสตอบแทนบุญคุณ
- คนที่ชอบโยนความผิดให้ผู้อื่น
เป็นคนที่ยากจะพัฒนาให้ดีได้ คนบางคนไม่ยอมรับความผิดของตน ชอบหาแพะรับบาป หมกมุ่นกับการหาวิธีโยนความผิดให้ผู้อื่น
แทนที่จะใช้เวลาในการพัฒนางานของตน คนประเภทนี้ ยากที่จะพัฒนาได้
- อยากเจริญก้าวหน้า
ต้องทำตัวเหมือนคนกำลังขึ้นเขา คนเดินขึ้นภูเขา จะต้องโน้มตัวไปข้างหน้าเสมอ
เปรียบเสมือนคนอ่อนน้อมถ่อมตน ซึ่งจะมีแต่คนรัก
แต่คนเดินลงจากภูเขาจะเอนตัวไปข้างหลัง เปรียบเสมือนคนเย่อหยิ่งจองหอง
ซึ่งไม่มีใครชอบ ดังนั้น ถ้าต้องการให้มีคนรัก และช่วยสนับสนุนให้เจริญก้าวหน้า
ควรประพฤติตนเสมือนคนกำลังเดินขึ้นเขา
- ผลักน้ำออกไป น้ำไหลเข้ามา
วักน้ำเข้ามา น้ำไหลออกไป คนที่เป็นผู้ให้ มักได้รับสิ่งตอบแทนเสมอ อย่างน้อยก็ต้องได้ความรักและความชื่นชมจากผู้อื่น
เปรียบเสมือนผลักน้ำออกไปจากตัว น้ำก็ยิ่งจะไหลเข้ามา แต่คนที่มีแต่ความโลภอยากได้จากผู้อื่น
กลับต้องเป็นผู้สูญเสีย ไม่ได้รับแม้แต่ความรักและความศรัทธา เปรียบเสมือนคนที่พยายามวักน้ำเข้าหาตัว
น้ำก็จะยิ่งไหลออกไป
- มีคู่แข่งได้
แต่ต้องไม่มีคู่แค้น การทำธุรกิจก็เหมือนการเล่นกีฬา ต้องมีคู่แข่ง
มีผู้แพ้ผู้ชนะ แต่ต้องไม่มีคู่แค้น เพราะการมีคู่แค้นทำให้ธุรกิจนั้นมัวหมอง
ไม่สดใส ไม่มีอนาคต
- เกิดเป็นคน เงยหน้าต้องไม่อายฟ้า
ก้มหน้าต้องไม่อายดิน คนเราเกิดมาอย่ามุ่งแต่จะหาประโยชน์ใส่ตนจนกลายเป็นคนเอาเปรียบสังคม
หรือ เบียดเบียนธรรมชาติสิ่งแวดล้อม
- คบคนดี ไม่สร้างศัตรู การคบคนดีก็เหมือนการคบบัณฑิต
บัณฑิตพาไปหาผล การยอมกันสักนิดเพื่อไม่ต้องเป็นศัตรูกันจะดี
เพราะการมีศัตรูเป็นหนทางสู่ความหายนะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น