ว่ากันว่าชีวิตคนเรานั้น ยิ่งแก่ยิ่งแกร่ง
บางคนบอกว่า ไม่ใช่แกร่งเพราะเรื่องดีๆ
แต่แกร่งเพราะเรื่องเลวร้ายที่เข้ามาในชีวิตเรานั่นเอง
แน่นอนว่า เรื่องดีๆทำให้เรามีความสุข
แต่เรื่องดีๆไม่ได้เกิดขึ้นทุกวันหรือบ่อยๆ
ซ้ำร้ายชีวิตบางคนอาจหนักหนาสาหัส
เจอแต่เรื่องไม่ดีเข้ามาในชีวิตก็เป็นได้
อย่างไรก็ตาม ชีวิตคนเราในแต่ละวันนั้น
ย่อมมีสุขมีทุกข์คละเคล้าปะปนกันไป
ดีบ้างร้ายบ้าง ทำให้เรายิ้มบ้างร้องไห้บ้าง
ไม่มีใครสุขได้ทุกวัน ทุกข์ได้ทุกครั้ง
แต่จะมีบางวันที่นับเป็นวันที่เลวร้ายที่สุดในชีวิต
ซึ่งหากเราพบเจอแจ็กพ็อตใดๆในวันนั้น
มันจะทำให้อารมณ์ความรู้สึกของเรา
กระจัดกระจายกระเจิดกระเจิง ทุกข์ใจอย่างที่สุด
อันดับที่ 1
วันที่คนที่เรารักที่สุดในชีวิตตายจากเราไป
วันแบบนี้คงไม่มีใครหนีพ้น ไม่เจอช้าก็เร็ว
นับเป็นวันที่ทุกข์ทรมานใจที่สุดในโลกวันหนึ่ง
แม้เราชาวพุทธจะรู้อยู่ว่า เกิดแก่เจ็บตายเป็นเรื่องธรรมดา
แต่เอาเข้าจริงเราก็ต้องใช้เวลาในการทำใจเช่นกัน
โดยเฉพาะวันที่เราสูญเสียปู่ย่าตายายพ่อแม่
ยิ่งหากเป็นการสูญเสียลูกก่อนวัยอันควรด้วยนั้น
มันโศกเศร้าและทำใจยากเหลือกำลัง
รวมถึงการสูญเสียคนรักด้วยการตายจากกันด้วย
ชายหญิงคู่หนึ่งคบกันสิบกว่าปีตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัย
กำลังจะแต่งงาน แต่ฝ่ายหญิงจากไปด้วยอุบัติเหตุ
ทำให้ฝ่ายชายทำใจไม่ได้ใช้ชีวิตเคว้งคว้างอยู่หลายปี
กว่าจะทำใจกลับมาใช้ชีวิตแบบคนปกติที่มีความสุขอีกครั้ง..
อันดับ 2
วันที่เราถูกทำร้ายจิตใจอย่างสาหัสที่สุดในชีวิต
วันที่คนที่เรารักถูกทำร้ายร่างกายและจิตใจ
ลูกสาวหรือแฟนถูกข่มขืน ถูกล่วงละเมิดทางเพศ
หรือแม้เต่เกิดจากความยินยอมของคนข้างกายเรา
วันที่แฟนของเรานอกใจเรา นอกกายเรา
วันที่แฟนของเรานอนกับชายอื่น หรือ หญิงอื่น
มีอะไรกันกับคนอื่น ทั้งที่บอกว่ารักเรา
แอบคบกับคนอื่น ทั้งที่ควรจะมีเราคนเดียว
ความลับไม่มีในโลก และสักวันหนึ่งก็เป็นวันที่เรารู้
และวันแบบนี้ ช่างทำร้ายเราได้อย่างเจ็บปวดที่สุด
อันดับ 3
วันที่เราหมดตัว สิ้นเนื้อประดาตัว
วันที่ไฟไหม้ทรัพย์สินของเราจนหมด ไม่มีเหลือ
ถูกปล้นหรือถูกโกงจนหมดเนื้อหมดตัว
เป็นหนี้เป็นสิน จนไม่มีทางโงหัวขึ้น
หรือทำธุรกิจแล้วเจ๊งจนหมดไม่เหลืออะไร
วันที่เปลี่ยนจากคนรวยมาเป็นคนจน
เปลี่ยนจากคนมี กลายเป็นคนไม่มี
วันที่ถูกยึดทรัพย์ ถูกเป็นคนล้มละลาย
(ยกเว้นพวกที่ล้มบนฟูก ไม่นับในกลุ่มนี้)
วันที่ถูกยึดบ้าน ยึดรถยนต์ เป็นต้น
หรือแม้แต่วันที่เรากลายเป็นคนไม่มีเครดิต
ไม่มีใครเชื่อถือ ไม่มีใครไว้วางใจอีกต่อไป
จะบากหน้าไปหาใคร ก็มีแต่คนปฏิเสธ
วันเหล่านี้นับเป็นวันเลวร้ายที่เราต้องจดจำ
ไปจนตลอดชีวิตของเรา วันหนึ่ง เช่นกัน
อันดับ 4
วันที่เราเป็นโรคร้ายแรง
หรือวันที่เราต้องพิการไปตลอดชีวิต
หากวันหนึ่งที่เราตรวจพบว่า เราเป็นโรคร้ายแรง
หรือว่าเราโชคร้ายประสบอุบัติเหตุ
จนตื่นมาพบว่า เราเป็นคนพิการไปเสียแล้ว
ไม่มีร่างกายครบสมบูรณ์เหมือนเดิมอีกต่อไป
แน่นอนว่าสุดท้ายแล้ว เราคงต้องยอมรับ
คงต้องปรับตัว และใช้ชีวิตต่อไปให้ได้
ตราบใดที่คนเรานั้น ยังมีลมหายใจ
แต่วินาทีนั้น วันนั้นที่เราต้องเปลี่ยนสภาพไป
เพราะโรคร้ายหรือความพิการนั้น
ช่างเป็นวันที่เจ็บปวดและทุกข์ทรมานใจที่สุด
อันดับ 5
วันแห่งการเลิกรา หย่าร้าง
วันที่เราถูกไล่ออกจากงาน
วันที่เราต้องยุติความสัมพันธ์กับใครสักคน
บางคนอาจจะเฉยๆ ไม่ทุกข์ใจอะไรมากนัก
เพราะอาจมีปัญหากันมานานแล้ว ถึงเวลายุติเสียที
เพราะมีคนใหม่ ต้องการจะทิ้งคนเก่า ทิ้งของเก่าอยู่แล้ว
แต่สำหรับบางคน การเลิกรากันนั้น หมายถึงชีวิต
หมายถึง ความรู้สึก หมายถึงทุกสิ่งทุกอย่าง
แม้ท้ายที่สุด ก็ต้องทำใจยอมรับความจริงให้ได้อยู่ดี
แต่วันที่ต้องตัดสินใจแบบนั้น ก็ถือเป็นวันที่เลวร้าย
ไม่ว่าจะเป็นวันที่เราต้องเป็นฝ่ายบอกเลิกกับคนรักของเรา
ยิ่งร้ายสุด หากเป็นวันที่คนที่เรารัก เป็นฝ่ายบอกเลิกเรา
หรือวันที่เราต้องถูกเลิกจ้าง ถูกไล่ออกจากงาน
โดยเฉพาะหากเราไม่รู้ หรือไม่ได้เตรียมตัวเตรียมใจมาก่อน
นับเป็นวันที่เจ็บปวดอีกวันหนึ่งของคนเราเลยทีเดียว
ยิ่งหากเราไม่ได้ทำความผิด แต่ต้องถูกไล่ออก
ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลกลใดก็ตาม นับว่าน่าเห็นใจไม่น้อย
................................
นี่แหละครับ เรื่องราวของวันที่เราเจ็บปวดที่สุดวันหนึ่ง
ที่วันพุธจัดอันดับตามความคิดและประสบการณ์
รวมถึงการเจอะเจอจากคนรอบข้าง
จากคนรู้จักและคนที่ไม่รู้จักทั้งหลาย ปนๆกันไป
วันพุธว่า ชีวิตแต่ละคนแตกต่างกัน เจอไม่เหมือนกัน
จึงไม่อาจเทียบเคียงกันได้ว่า ปัญหาของใครหนักกว่ากัน?
ใครจะเจอวันที่ดี หรือ วันที่เลวร้ายที่สุดในชีวิตมากกว่ากัน?
เพราะบางคนเจอวันที่เลวร้ายบ่อยๆจนอดทนและเข้มแข็ง
ขณะที่บางคนเจอแค่วันเดียว ครั้งเดียวก็เกินพอกับชีวิตแล้ว
ส่วนบางคนที่อาจพบเจอมาแล้วทั้ง 5 อันดับวันเลวร้ายที่กล่าวถึง
หรืออาจจะพบเจอมากกว่านี้อีกก็ยังมีให้เห็น
เพียงแต่ความรู้สึกว่า แย่ ความรู้สึกว่า เลวร้าย นั้น คิดต่างกัน
เรื่องการตาย เป็นเรื่องธรรมชาติที่อยู่นอกเหนือการควบคุม
ของคนเรา ไม่มีใครหนีพ้นความตายไปได้
ส่วนการที่เราถูกคนอื่นทำร้ายร่างกายหรือจิตใจอย่างสาหัส
เราเองคงต้องทำใจและยอมรับความจริง
หากเป็นการนอกใจ ก็คงต้องปล่อยเฃาไป
และเอาตัวเองออกมาจากความทุกข์ให้ได้
แต่ก็อย่างว่าครับ พูดง่ายทำยากเหมือนกัน
โดยเฉพาะวันที่เกิดเหตุการณ์เลวร้ายวันนั้น
เป็นวันที่เราต้องใช้สติ ใช้พลังใจในการฝ่าฟันอย่างมาก
และต้องควบคุมอารมณ์กันแบบสุดๆไปเลย
แต่หากเราผ่านช่วงเวลาวันที่เลวร้ายนั้นออกมาได้
เมื่อเรามองหันกลับไป เราก็จะยิ้มให้กับชีวิตของเราได้
แม้ว่าการ ยิ้ม นั้น จะเป็นการ ยิ้มทั้งน้ำตา ก็ตามที…ว่าไหมครับ
ขอบคุณบทความจาก :http://www.oknation.net/blog/kritwat/2012/12/05/entry-1
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น