การนับถือตัวเอง หมายถึง บุคคลที่มีความรับผิดชอบต่อการกระทำของตัวเองมีความซื่อสัตย์ มีความภูมิใจในผลสำเร็จของงาน บุคคลซื่งมีความคิดริเริ่มและมีความมุ่งมั่นที่จะแก้ปัญหาและรับผิดชอบปัญหาที่จะเกิดตามมา เป็นคนที่คนอื่นรักและรักคนอื่น เป็นบุคคลที่สามารถควบคุมตัวเองเพื่อให้บรรลุเป้าหมายของงาน
สรุปแล้วคนที่นับถือตัวเองสูง คือ คนที่มีความคิดสร้างสรรค์ มีความรับผิดชอบสูงและซื่อสัตย์ ตรงกันข้ามกับคนที่มี self-esteem ต่ำ หรือที่นักจิตวิทยาเรียกว่ามี "พฤติกรรมป้องกัน" (defensive) คนกลุ่มนี้ชอบพิสูจน์ตัวเอง วิจารณ์คนอื่น หรือใช้คนอื่นเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง บางคนอาจจะแสดงออกในลักษณะของความเย่อหยิ่ง หรือดูถูกผู้อืน ทั้งที่จริงลึกๆ ข้างในไม่มีความมั่นใจในตัวเอง ว่ามีคุณค่าหรือความสามารถ หรือได้รับการยอมรับหรือไม่ เพียงไร คนกลุ่มนี้จึงไม่กล้าทำอะไร เนื่องจากกลัวความล้มเหลวจึงแก้ปัญหาด้วยการวิจารณ์คนอื่นมากกว่าที่จะลงมือกระทำด้วยตัวเองที่สำคัญคือ ยังพบด้วยว่า คนที่นับถือตัวเองต่ำมักนำพาตนเองไปสู่ความเสี่ยงนานัปการ เช่น ชอบใช้ความรุนแรง ติดสุรา ยาเสพติด มีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร ฯลฯ นับถือตัวเอง ไม่ใช่หลงตัวเอง คนที่นับถือตัวเองสูง หรือเรียกได้ว่ามี selfesteem มักจะประกอบด้วยสิ่งต่อไปนี้
- มองโลกในแง่ดีเสมอ มองวิกฤตให้เป็นโอกาส เมื่อมีมืดต้องมีสว่าง มีร้ายต้องมีดี ขาวคู่กับดำ
- ประเมินตัวเองให้มีคุณค่าอยู่เสมอ
- เชื่อมั่นในความสามารถตัวเอง
- มองว่าตัวเองเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต และสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามที่ต้องการ
ขณะที่ผู้ที่ไม่รู้คุณค่าตัวเองไม่มีความมั่นใจจะไม่มีความหวัง ไม่มีพลังในการต่อสู้ และในที่สุดจะเป็นคนที่ซึมเศร้า
ข้อมูลเหล่านี้ทำให้มองเห็นได้ชัดเจนว่า การนับถือตัวเอง คือเงื่อนไขสำคัญหนึ่งที่จะนำไปชีวิตไปสู่สุขภาวะและห่างไกลจากปัจจัยเสี่ยงสุขภาพนานัปการ ทั้งทางกายและทางใจ แล้วทำไมไม่หาเวลาทบทวนและก่อร่างสร้างพื้น ฐานอันสำคัญนี้ให้แข็งแกร่งอยู่คู่ตัวเรากันเล่า...
นับถือตัวเอง ต้องสร้างด้วยตัวเอง
รู้ไหมว่า...
ความเชื่อมั่นตนเองและรู้คุณค่าตัวเองเป็นส่วนสำคัญในการดำเนินชีวิต
ลำพังความคิดอย่างเดียวไม่สามารถสร้างความมั่นใจในตัวเองได้
ความมั่นใจจะเริ่มสร้างตั้งแต่เด็กจนกระทั่งตาย
ความมั่นใจจะกระทบต่อการตัดสินใจ ดังนั้นทุกคนต้องสร้างความมั่นใจให้กับตัวเองอย่างสม่ำเสมอ
ตัวอย่างของความมั่นใจ เช่น หากคนจะเปลี่ยนอาชีพเขาจะต้องมั่นใจในตัวเองหรือมีคนอื่นเห็นถึงความสามารถของเขาที่จะทำให้สำเร็จ เมื่อมีความผิดหวังหรือความเครียดความมั่นใจหรือเชื่อมั่นในตัวเองจะช่วยให้แก้ไขสถานการณ์ให้ผ่านไปด้วยดี
ผู้ที่มีความมั่นใจสูงมักจะไม่ทำร้ายตัวเอง ไม่ดื่มสุราหรือติดยาเสพติดเด็กหญิงวัยรุ่นที่มีความมั่นใจสูงมักจะไม่ประพฤติผิดประเพณี
ความมั่นใจเป็นลักษณะของแต่ละคนไม่สามารถที่จะให้กันได้แต่สามารถฝึกฝนได้
ในสังคมปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงเร็ว ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ คนที่มีความมั่นใจและมีความสามารถในการตัดสินใจ ความคิดริเริ่มใหม่ๆ การปฏิบัติงานเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ ความสามารถในการแก้ปัญหา ความสามารถในการสื่อสารกับผู้อื่นเพื่อให้เข้าใจเหมือนกัน คนเช่นนี้จึงจะอยู่รอดในสังคม
ต่อไปนี้คือแนวทางเสริมสร้างความนับถือตัวเอง เพื่อที่จะเป็นคนที่บรรลุซึ่งมีประสิทธิภาพสูง (Peak Performance)
- หาเวลาสักหนึ่งชั่วโมงในตอนเช้าเพื่อพัฒนาตัวเอง อาจจะเป็นการนั่งสมาธิ หรือการพิจารณาตัวเองหรืออ่านหนังสือที่สร้างความเชื่อมั่น
หรือฟังเทปคำสอนต่างๆ การเริ่มต้นที่ดีจะทำให้เกิดความมั่นใจและประสบผลสำเร็จ - มองปัญหาและมองโลกในแง่ดี เลิกบ่นสิ่งที่ไม่ดีเกี่ยวกับตัวเอง ลองหากระดาษสักแผ่นจดความคิดที่ดีๆ เกี่ยวกับตัวเองไว้ด้านหนึ่ง
อีกด้านหนึ่งจดสิ่งที่ไม่ดีแล้วมาวิเคราะห์ ว่ามีสิ่งไม่ดีหรือสิ่งที่ดีมากว่ากัน หานามบัตรจดสิ่งที่ดี
หรือคำขวัญที่ดีไว้กระตุ้นเตือนตัวเองอยู่ตลอดเวลา - ทำบ้านให้ปราศจากความวุ่นวาย ฟังเพลงอ่านหนังสือ หรือคุยกับเพื่อนที่สนิท
- หาวันละ 10 นาทีเพื่อพิจารณาจุดยืนของตัวเอง สิ่งที่สำคัญของชีวิตคืออะไร เราบรรลุหรือยัง เราเดินผิดแนวทางหรือไม่
- ให้เลิกเปรียบเทียบตัวเองกับผู้อื่น เพราะเราต้องยอมรับว่าคนเราไม่มีใครที่สมบูรณ์ทุกด้าน
- ให้จดสิ่งที่ดีเกี่ยวกับตัวคุณ เช่น ความซื่อสัตย์ความคิดริเริ่ม ความมุ่งมั่น ความเอื้ออาทร เป็นต้น ให้อ่านสิ่งเหล่านี้บ่อยๆ
- ควรคบหากับคนที่มองโลกในแง่ดี หรือคนที่มี self-esteem เพราะเพื่อนจะกระตุ้นให้เรามีความมั่นใจและความมุ่งมั่นเพิ่มขึ้น
ตรงกันข้ามหากคบคนที่มองโลกในแง่ร้ายจะทำให้เรามองโลกในแง่ร้าย ความมั่นใจก็จะสูญเสียไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น