คำคม

ปัญหามีไว้ให้หาปัญญา อุปสรรคมีไว้ให้ฝึกหาทางออก วันไหนที่มีความสุข วันนั้นอย่าทำความสุขในชีวิตหล่นหาย

วันเสาร์ที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

คติธรรมคำสอน

"....ท่านทั้งหลายจงอย่าทำตัวเป็นตัวบุ้งตัวหนอนคอยกัดแทะกระดาษแห่งคัมภีร์ใบลานเปล่าๆโดยไม่สนใจพิจารณาสัจธรรมอันประเสริฐที่มีอยู่กับตัว  แต่มัวไปยึดธรรมที่ศึกษามาถ่ายเดียวซึ่งเป็นสมบัติของพระะพุทธเจ้า  มาเป็นสมบัติของตน  ด้วยความเข้าใจผิดว่าตนเรียนรู้และฉลาดพอตัวแล้ว  ทั้งที่กิเลสยังกองเต็มหัวใจยิ่งกว่าภูเขาไฟ  มิได้ลดน้อยลงบ้างเลยจงพากันมีสติคอยระวังตัว  อย่าให้เป็นคนประเภทใบลานเปล่าๆ เรียนเปล่าและตายทิ้งเปล่า ไม่มีธรรมอันเป็นสมบัติของตัวอย่างแท้จริงติดตัวบ้างเลย "
..นี่คือคำสอนที่องค์หลวงปู่มั่นเคยพูดอยู่เสมอๆ

"คนไม่สนใจธรรม ธรรมก็ไม่เข้าถึงใจคน จึงกลายเป็นคนก็สักว่าคน
ธรรมก็สักว่าธรรม ไม่อาจยังประโยชน์ให้สำเร็จได้ แม้คนจะมีจำนวนมาก
และแสดงธรรมให้ฟังทั้งพระไตรปิฏก จึงเป็นเหมือนเทน้ำใส่หลังหมา
มันสลัดออกเกลี้ยงไม่มีเหลือ ธรรมจึงไม่มีความหมายในใจของคน
เหมือนน้ำไม่มีความหมายบนหลังหมา ฉันนั้น"
หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต

คติธรรมคำสอน ของ หลวงปู่ทวด

ยุ่งยาก กับ เยือกเย็น
ในยามที่เราพบกับความยุ่งยาก ต้องพึ่งพาความเยือกเย็น
ค่อยๆ ย้อนลงไปแยกแยะสาเหตุแห่งปัญหา ที่ทำให้เราเร่าร้อน
เราจะเอาชนะความยุ่งยากของชีวิตได้ ด้วยการเอาชนะความวิตกกังวล
ที่เกิดขึ้นในใจของเราเสียก่อน
จงมองดูความวิตกกังวลของตนเอง มองูว่ามันทำให้เราเอาชนะปัญหาของเรา
หรือมันทำให้เราหมดพลัง และพ่ายแพ้
ปัญหาต่างๆ ของชีวิตผ่านมาแล้วก็ผ่านไป ความทุกข์ยากที่เราคิดว่ามันแสนสาหัส สำหรับเราในวันนี้ ในวันข้างหน้า เราอาจรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องเล็กน้อย...
หลวงปู่ทวด

 ตนจะเป็นที่พึ่งที่ดีที่สุดของเราได้ เราต้องฝึกจิตใจของเราให้เชื่อง จิตที่ไม่ได้ฝึกเหมือนม้าป่าที่พยศ อาจจะทำร้ายตัวเราเองได้ จิตที่ผ่านการฝึกฝนจนเชื่อง เราจะสามารถควบคุมได้จะเป็นทั้งเพื่อนที่ดีที่สุดของเรา เป็นม้าที่เชื่อง ม้ามีพลังอยู่แล้ว เราสามารถใช้พลังอันมหาศาลนี้เพื่อความสุข เพื่อประโยชน์ทั้งของตัวเราเองและผู้อื่นได้ แต่ถ้าเราคุมจิตเราไม่อยู่พลังอันมหาศาลนี้ก็สามารถทำร้ายเราและผู้อื่นได้เช่นกัน

พระสัมมาสัมพุทธเจ้า

"ในขณะที่เรามีความรู้สึกทางลบ หรือเกิดกิเลสขึ้นในใจ ไม่ว่าจะเป็น ความโกรธ ความเกลียดชัง ความคิดแค้น ฯลฯ เท่ากับเราทำให้ความทุกข์ของเราเองนั้นมันทวีคูณขึ้นๆ ไป กฏของธรรมชาติเป็นอย่างนี้เอง เมื่อเรามีความคิด ความรู้สึกทางลบ ความทุกข์ของเราก็จะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เป็นไปไม่ได้ที่เราจะรู้สึกมีความสงบสุข ในขณะที่ใจของเราร้อนรุ่มไปด้วยความโกรธ เกลียด แค้น ชิงชัง หรือความโลภ"
"ความสงบสุขและกิเลสอยู่ด้วยกันไม่ได้ เหมือนดั่งความสว่างและความมืดที่อยู่ด้วยกันไม่ได้"
ท่านอาจารย์โกเอ็นก้า

สติ (สัมมาสติ, Awareness) และ อุเบกขา (Equanimity) ต้องเท่ากันทั้งขนาดและกำลัง (ความแข็งแรง) เหมือนปีกนกสองข้างที่ต้องสมดุลกัน
ท่านอาจารย์โกเอ็นก้า

"มันง่ายมากที่จะยิ้มเมื่อชีวิตของเราราบรื่น แต่คนที่ฉลาด คือคนที่สามารถยิ้มได้ถึงแม้จะเผชิญปัญหาที่หนักมากทั้ง ๘ ด้าน หรือยิ้มได้เมื่อทุกๆ อย่างในชีวิตผิดไปหมด และเราก็รู้ว่าหลายครั้งในชีวิตเราที่ทุกๆ อย่างในชีวิตดูจะผิดไปหมด"
ท่านอาจารย์โกเอ็นก้า

พวกเราเวลานึกถึงเรื่องเศร้าในอดีตเราก็ยิ้มได้ เพราะตอนนี้เราหายเศร้าแล้ว
ดังนั้นทำไมเราไม่ยิ้มตั้งแต่ตอนนั้นเลย
ท่านอาจารย์พรหมวังโส

อย่าเสียใจ-อย่าใจเสีย จะเสียอะไร ก็ให้เสียไป อย่าให้เสียใจ หรือ อย่าให้ใจเสีย
คนที่ใจเสีย หรือเสียใจ ก็คือคนที่สูญเสียทุกสิ่งทุกอย่าง ไม่มีอะไรเหลือ..
หลวงปู่ชา สุภัทโท

"ทุกสิ่งไม่ได้เกิดขึ้นโดยบังเอิญ ไม่มีอะไรเกิดขึ้นในโลกนี้โดยบังเอิญ ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้น ล้วนมีเหตุทำให้เกิด โดยอาจจะเกิดจากสาเหตุหนึ่งหรือหลายสาเหตุร่วมกัน เหตุเช่นไรก็จะให้ผลเช่นนั้น เหตุเช่นนี้ก็จะให้ผลเช่นนี้เสมอไป"
คัดลอกมาจากคติธรรมของคุณ เหมียว วรัตดา ภัทโรดม ที่ให้แง่คิดดี ๆ แก่บุคคลทั่วไปhttp://www.meowwarattada.com/about-meow.php

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น