คำคม

ปัญหามีไว้ให้หาปัญญา อุปสรรคมีไว้ให้ฝึกหาทางออก วันไหนที่มีความสุข วันนั้นอย่าทำความสุขในชีวิตหล่นหาย

วันพฤหัสบดีที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2555

สิ่งมหัศจรรย์ 10 ประการ เปลี่ยนใหม่เพื่อชีวิตใหม่

วันใหม่ ปีใหม่วนเวียนมาอีกครั้ง
หนุ่มขึ้น แก่ลงคือสัจธรรม เป็นสิ่งแท้จริงของชีวิต
เก่าไปใหม่มา ธรรมดาของโลกธรรม ภาพจริงของมนุษย์คือการรักษาไว้ซึ่งการดำรงอยู่อย่างมีสุข หรือมีทุกข์
ฝาก 10 สิ่ง เพื่อการดำรงอยู่อย่างมีความสุขและทรงคุณค่าแท้
เพื่อรับปีใหม่เพื่อชีวิตที่ดีงามตลอดไป
1.การพูดดี การสื่อสารที่ดีทรงคุณค่า เป็นสิ่งแรกที่เห็นภูมิปัญญา โง่ ฉลาด มีมารยาท หรือต้องไปอบรมมารยาท ชัดที่สุดคือการสื่อสาร คนที่สำเร็จในชีวิตมักจะมีความเด่นด้านคำพูดมีตรรกะ เหตุผล คิดก่อนพูด ไตร่ตรอง อยากให้ฝึกการใช้เหตุผลในการสื่อสารไม่ใช้อารมณ์
วิธีง่ายๆ เวลาโกรธ เกลียด อารมณ์เสียลองฝึกอดทนต่อการสื่อสาร และให้นึกทุกครั้ง ด่าคนหนึ่งคำเขาจำทั้งชีวิต ก่อนพูดเราเป็นนายคำพูด พูดจบปุ๊บคำพูดเป็นนายเรา
ปีใหม่ฝึกพูดด้วยมารยาท ไม่ด่า ไม่ส่อเสียด ไม่เพ้อเจ้อ

2. การคิดดี สมาธิคู่ความสุขุม ไตร่ตรอง ไม่มองคนด้านร้ายเกินไปรู้จักการปล่อยวางอยู่กับปัจจุบันในทุกขณะ ยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้นมีสติ ทำ พูด คิด รอบคอบ ไม่บ่มเพาะความเครียด ควรฝึกฝนสมาธิวันละอย่างน้อย 1 ชั่วโมง

3. การรักษาสุขภาพดี คนที่ไม่ใส่ใจสุขภาพตนเองคือคนไม่รักตนเอง การออกกำลังกายวันละแค่ครึ่งชั่วโมง ช่วยทำให้ร่างกายสดชื่นแข็งแรง เป็นกำลังสำคัญต่อสังคมประเทศชาติ เป็นบุคลากรที่มีคุณภาพต่อครอบครัว สังคม องค์กร การงาน การออกกำลังกายทำให้เราไม่เหนื่อยง่าย
ขอให้ปีใหม่ทุกคนใส่ใจต่อสุขภาพตนเองอย่างมีคุณค่า การออกกำลังกาย การกิน การนอน ความเครียด สร้างวินัยตนเองให้เต็มที่

4. มีมิตรภาพดี เหมือนกับการได้อยู่ในสังคมที่ดี ปีใหม่นี้ใครที่เคยโกรธเกลียด ข่มใจใส่ความเมตตา หากพอสร้างมิตรภาพร่วมกันปรับความบาดหมาง ปรับมุมมองเข้าหากันทำความเข้าใจ
การสร้างสังคมเพื่อมิตรภาพที่ดีเป็นมงคลของชีวิต โดยเฉพาะที่ทำงาน ที่บ้านสำคัญต้องให้เวลาคนในบ้าน ญาติพี่น้อง เพื่อนทุกระดับต้องสร้างสรรค์ร่วมกัน
การมีมิตรภาพยั่งยืนย่อมทำให้เราก้าวหน้าในชีวิต

5. ทำจิตใจดี คนมีเสน่ห์มักเป็นคนจิตใจดีมีความเมตตา จะคิด พูด กระทำ หากกลั่นมาด้วยความเมตตา ย่อมทำให้เกิดความสงบสุข ทำงาน ธุรกิจใดๆ ย่อมสัมฤทธิผล การมีความเมตตาย่อมส่งผลออกมาซึ่ง ความจริงใจ ไม่เสแสร้ง
มีทัศนคติที่ดีต่อทุกคนทุกเรื่อง สร้างจิตใจที่ดี งดงาม ไม่หลงตนเอง ไม่ดูถูกผู้อื่น มีใจให้เกียรติผู้อื่น พร้อมดำรงอยู่อย่างมีคุณค่า

6. สร้างความเชิงบวกที่ดี การสร้างความคิดบวกไม่ง่าย แต่ไม่ยาก ต้องข่มอารมณ์ความรู้สึกอย่างยิ่ง แต่ผลสัมฤทธิ์ของการคิดบวกคือความสบายใจ ความไม่เครียด รู้จักปล่อยวาง เหตุร้ายเกิดรับสถานการณ์ได้อย่างดี
การสร้างความคิดบวก ต้องเริ่มจากถ้า... เช่น ถ้าคนนินทา ก็ให้ถือว่าเราเป็นคนมีความสำคัญ ถ้ามีอุบัติเหตุ ให้คิดบวกว่า ทำให้เรามีสติ และไม่ประมาทอีกเป็นอันขาด

7. สร้างความน่าเชื่อถือดี คนที่จะน่าเชื่อถือดี คือคนรักษาเวลา มีวินัย ใส่ใจคนรอบข้าง มีปัญญา ดำรงตนเพื่อส่วนรวม ให้เกียรติ ไม่มองคนด้านร้าย การที่ดำรงตนเป็นคนคบได้คือ ความเข้าใจปรับตนให้กับสังคม องค์กร ผู้อื่นเสมอ มีมาตรฐานในการทำงานรักษาอุดมการณ์ และมีวิธีคิดเพื่อส่วนร่วม หนักแน่น ให้คุณมากกว่าให้โทษ

8. จัดเวลาดี การจัดเวลาเป็นเรื่องสำคัญยิ่ง เวลามีเท่ากัน แต่คนเราใช้ไม่เหมือนกัน หากเรารู้สึกการเสียเวลาเหมือนกับการเสียเงินจะรู้สึกเห็นคุณค่าเวลาได้ดีแน่
การใช้เวลาต้องไตร่ตรอง ควรแบ่งเวลาให้สมดุล ด้านครอบครัว สุขภาพ สังคม การงาน ควรจัดระบบการแบ่งเวลาให้ดีมีคุณค่า เพื่อความก้าวในชีวิตสืบต่อไป

9. ขยันดี การวางแผนดีในทุกมิติ การมีวินัยคือการวางแผนในทุกวัน ทุกอาทิตย์ เดือน ปี และหลายปีข้างหน้า การมียุทธศาสตร์ตนเองทำง่าย บันทึกช่วยจำ ก่อนไปทำงาน ก่อนกลับบ้าน ใช้เวลาดูคิดไตร่ตรองแผนงาน หรือประเมินตนเองให้เหมาะสม

10. จริยธรรมดี การดำรงตนให้มีทัศนคติที่ดีเชิงจริยธรรม เป็นการสร้างความน่าเชื่อถือ

การดำรงไว้ซึ่งการมีคุณธรรม และทัศนคติเชิงบวกอย่างมีคุณค่า การวางกรอบความคิดเพื่อสร้างจริยธรรมคุณธรรมถือเป็นส่วนสำคัญในการวางกรอบชีวิตที่ดีมีคุณค่าอยู่อย่างสมสง่าน่าเชื่อถือมีคุณค่าตลอดไป
การสร้างพลังเชิงบวกให้กับชีวิตเพื่อรับปีใหม่สำคัญยิ่งสำหรับการปรับชีวิตให้อยู่อย่างสมดุลและทรงคุณค่า ปัญหาใหญ่จำเป็นต้อง สร้างมาตรฐานวินัยให้เกิดกับตนเองและผู้อื่น
ทั้งนี้ การวางแผน การจัดการทั้ง 10 ประการอาจจะดูไม่ง่ายในการฝืนใจกิเลส
แต่สิ่งที่ได้จะทรงคุณค่า คือได้ทำสิ่งดีรับปีใหม่
อย่าโกรธใครจนเป็นความเคียดแค้น

ปล่อยวางจากสิ่งสมมุติบ้างจะมีความสุข
ปล่อยใจกับเสียงเรียกร้องภายในตนเองอย่างมีสติ
ขอให้สุขกาย สุขใจ ตลอดปีใหม่ 2555


ขอบคุณ มติชนออนไลน์  คุณชลวิทย์ เจียรจิตต์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น