คำคม

ปัญหามีไว้ให้หาปัญญา อุปสรรคมีไว้ให้ฝึกหาทางออก วันไหนที่มีความสุข วันนั้นอย่าทำความสุขในชีวิตหล่นหาย

วันศุกร์ที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2555

เปิดประตู สู่พลังแห่งความสร้างสรรค์

         ความคิดสร้างสรรค์ เป็นทักษะที่สามารถฝึกฝนได้ช่วยปรับเปลี่ยนพัฒนาบุคลิกภาพให้ดีขึ้น เพราะการมีพื้นฐานทางด้านการคิดที่ดี ทำให้การพูด การฟัง การแสดงความคิดเห็น เปลี่ยนแปลงไปด้วย ดังคำที่ว่า “เปลี่ยนความคิด ชีวิตก็เปลี่ยน” การพัฒนาบุคลากรให้มีทักษะทางด้านความคิดสร้างสรรค์ อาจไม่ได้ส่งผลกับองค์กรแบบทันทีทันใด แต่เปรียบเสมือนการสร้างรากฐานในระยะยาว เช่น การลดเวลาและความขัดแย้งในการประชุม การลดข้อบาดหมางระหว่างผู้ร่วมงาน หรือแก้ปัญหาการสื่อสารระหว่างหัวหน้ากับลูกน้องให้สามารถเข้าใจกันได้มากขึ้น เกิดความสามัคคีในองค์กรหรือแม้กระทั่งการดึงศักยภาพสูงสุดของบุคลากร ออกมาใช้ นอกจากนี้พลังความคิดสร้างสรรค์ยังถือเป็นขุมพลังขนาดใหญ่ที่เป็นได้ทั้งสิ่งดีและสิ่งร้าย ดังนั้น ปัจจุบันเรายังต้องมีวิธีการจัดการบริหารความคิดสร้างสรรค์ให้มีพลังในแนวทางที่สร้างสรรค์อย่างแท้จริง ทำให้เกิดประโยชน์โดยไม่ทำให้คนอื่นหรือสิ่งอื่นในธรรมชาติต้องมาเดือดร้อน ตามไปด้วย
      สิ่งจำเป็นที่ต้องเตรียมตัวให้มีไว้เพื่อเพิ่มพูนพลังสร้างสรรค์
      1.  จงเชื่อมั่นในตนเอง
      ทุกคนมีพลังความคิดสร้างสรรค์เหมือนกัน ใครที่คิดว่าตนเองไม่มีอาจเพราะไม่ค่อยได้ใช้  หรือยังไม่กระตุ้นมันให้ตื่นขึ้นมา  เลยยังไม่เห็นความคิดสร้างสรรค์ในตัวเอง จงอย่าปิดกั้นตนเองด้วยความคิดที่ว่าเราเป็นคนไร้ความสร้างสรรค์แต่ทุกคนสามารถทำทุกอย่างได้ขอเพียงตั้งใจในสิ่งนั้น
      2.  เมื่อเริ่มพัฒนาแล้ว พักได้ระหว่างทางแต่อย่าหยุด
      ไม่มีอะไรง่ายโดยเฉพาะการปรับปรุงเพิ่มเติมความสามารถตัวเอง หากเราเกิดอาการเหนื่อย อยากพักผ่อนบ้าง หากเกิดอาการล้า อยากแนะนำให้นอนพักหรือไปทำกิจกรรมคลายเครียดที่ชื่นชอบ   เมื่อสบายใจแล้วค่อยเริ่มต้นใหม่ ขอเพียงอย่าล้มเลิกหยุดมันกลางคัน ในระยะแรกอาจไม่ใช่เรื่องง่าย   แต่เราอาจต้องบังคับตนเองให้คิดอย่างสร้างสรรค์ แต่เมื่อเวลาผ่านไปผลที่ได้รับจะคุ้มค่ากับความพยายามแน่นอน
      3.  อ่านหนังสือให้มากกว่าหนึ่งเล่ม
      หากอยู่ในกลุ่มคนไทยที่อ่านหนังสือแค่ไม่เกิด 8 บรรทัดต่อเดือน แนะนำให้เปลี่ยนแปลงนิสัย เสียใหม่ โดยให้ตระหนักว่าการอ่านเป็นหนึ่งในวิธีกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ที่ดีมากอีกทางหนึ่ง เพราะเมื่ออ่านโดยใช้สายตาไล่ไปตามตัวอักษร สมองก็จะแปลความสิ่งที่อ่านนั้นให้ท่านทำความเข้าใจ อันจะส่งผลให้ระบบความคิดทำงานตามไปด้วย

      4.  นึกถึงประโยชน์ในอนาคตเพื่อเพิ่มพลังในปัจจุบัน
      การปรับทัศนคติให้เป็นบวกก่อนลงมือฝึกปรือความสร้างสรรค์นับเป็นพื้นฐานที่สำคัญ นอกจากจะทำมีความมั่นใจแล้ว ยังควรเติมน้ำมันแห่งความมุ่งมั่นด้วยการคิดถึงความสำเร็จในตอนท้าย ให้กำลังใจตนเองเสมอ ๆ ว่าเมื่อเพิ่มพูนพลังตัวนี้แล้ว จะทำให้เราได้รับโอกาสดี ๆ เพิ่มขึ้น หรืออย่างน้อยที่สุดแม้มีโอกาสจะไม่เข้ามาหาในทันทีทันใด แต่ก็ทำให้มีทักษะสร้างสรรค์ติดตัวเพิ่มอีกอย่างหนึ่ง ซึ่งถือว่าเป็นความสำเร็จที่น่าพอใจแล้ว
      5.  พัฒนาอย่างมีทิศทาง
      มีคำกล่าวว่าการทำสิ่งใดให้ได้ผลนั้นนอกจากความตั้งใจแล้วเรายังต้องมีทิศทางที่จะก้าวเดินไป  เมื่อเริ่มต้นก้าวแล้ว  เราควรก้าวอย่างมีแก่นสาร เปรียบได้รับเป็นจุดเริ่มแห่งการเดินทาง ควรรู้ตัวว่าจะ   ไปทางไหน ไปเพื่ออะไร ควรมีการวางเป้าหมาย สำหรับสิ่งที่เราอยากจะมีอยากจะเป็น อยากจะไปให้ถึง บางคนอาจคิดว่าการวางเป้าหมายเป็นสิ่งชวนเสียเวลาเปล่า ทำไมเราไม่ลงมือทำทันทีเพื่อประหยัดเวลา แต่การทำเช่นนั้นจะเท่ากับเราได้วางเส้นทางที่จะไป เป็นการสำรวจว่าเราต้องการอะไรและเขียนมันออกมา จากนั้นเราก็ซึมซับมันอีกครั้งด้วยการอ่าน เพื่อค้นหาว่าเราต้องการมันจริงหรือไม่ อันจะทำให้เห็นสิ่ง      ที่ต้องการชัดเจนยิ่งขึ้น การเดินไปให้ถึงก็ย่อมง่าย ที่เหลือก็แค่เดินไปเท่านั้นเอง ดีกว่าเดินแบบไร้ทิศทาง
      เมื่อมี 5 สิ่งที่ต้องทำเพื่อเพิ่มความคิดสร้างสรรค์เป็นของตนเองแล้ว จงจดจำมันไว้ให้ดีและทำมัน  การคิดแล้วลงมือทำจริงจะเป็นการบังคับให้เราควบคุมตนเองได้ดีขึ้น จากเดิมเรากับความคิดอาจทำงานไม่ประสานกัน ต่างฝ่ายก็ทำหน้าที่อย่างสะเปะสะปะ  แต่ด้วยการฝึกคิดแล้วทำตามจะช่วยให้เราควบคุมความคิดที่กระเจิดกระเจิงให้มีสมาธิเพิ่มขึ้นได้
เปิดประตู สู่พลังแห่งความสร้างสรรค์
ของ มนต์ทิวา-นเรศร์  มหาคุณ
จาก  Creative สร้างสรรค์สร้างได้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น