คำคม

ปัญหามีไว้ให้หาปัญญา อุปสรรคมีไว้ให้ฝึกหาทางออก วันไหนที่มีความสุข วันนั้นอย่าทำความสุขในชีวิตหล่นหาย

วันอาทิตย์ที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2555

ชวนคิดชวนทำ 7 แบบ เคล็ดลับของคนเก่ง

คนเก่ง

คนบางคนจัดเป็นคนเก่งและมีประสิทธิภาพอย่างเหลือเชื่อ สามารถทำงานหลายอย่างให้ลุล่วงไปได้ด้วยดี มีคุณภาพ และมีพละกำลังและความกระตือรือล้นที่จะทำงานไปได้เรื่อยๆ อย่างไม่มีที่สิ้นสุด 
คนที่มีลักษณะดังเช่นที่กล่าวมา หลายคนไม่ได้เกิดมาพร้อมกับพรสวรรค์ ไม่ได้เก่งมาแต่กำเนิด

หากแต่ความเป็นจริงคือ พวกเขาใช้พรแสวง หาทางเพิ่มประสิทธิภาพให้ตัวเองอย่างมากมาย จนกลายเป็นคนเก่งจริงๆแล้วการเป็นคนเก่งนั้นไม่ยากเลย ไม่เชื่อลองดู 7 เคล็ดลับของคนเก่ง ต่อไปนี้ ที่คุณอาจจะคุ้นเคยอยู่แล้ว เพียงแต่ยังไม่ได้นำมาปฏิบัติเท่านั้น

1. รู้ช่วงเวลา “ดีที่สุด”ของวัน  
คนเก่งมักเข้าใจเรื่องจังหวะเวลาในแต่ละวันของตนเองได้ดี และนำมันมาใช้วางแผนการทำงาน พวกเขาตระหนักดีว่า ทุกโมงยามมีความแตกต่างกัน

แล้วคุณล่ะ.. รู้หรือไม่ว่าช่วงไหนของวันเป็นเวลาที่ดีที่สุดสำหรับคุณ เช่น คุณทำงานได้ดีเยี่ยมในช่วงเช้า พอช่วงบ่ายคุณเริ่มล้าและต้องใช้สมาธิมากขึ้น หรือคุณมักมีเรี่ยวแรงทำงานได้อย่างยอดเยี่ยมตอนบ่าย 3 โมงเสมอๆ

สิ่งที่ควรทำ : เมื่อคุณรู้ถึงชั่วโมงการทำงานที่ดีที่สุดในแต่ละวันของตัวเอง ก็จงใช้ช่วงเวลานั้นทำงานที่ยากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นงานที่ต้องใช้สมาธิมากๆหรือความคิดสร้างสรรค์ หากเวลา 09.00-12.00 น. เป็นเวลาที่คุณมีสมาธิสูง จงอย่าเอาเวลานั้นไปนั่งอ่านอีเมล หรือทำอะไรง่ายๆที่คุณสามารถทำเวลาไหนก็ได้

2. โฟกัสงานทีละชิ้น  
คนเก่งเข้าใจดีว่า การทำงานหลายอย่างให้ดีในเวลาเดียวกันนั้น เป็นเรื่องที่เป็นไปไมได้ และพวกเขาจะไม่ยอมทำงาน 5 อย่างในเวลาเดียวกัน แต่จะโฟกัสไปที่งานเพียงชิ้นเดียวเท่านั้น

คราวนี้ลองหันมามองตัวคุณเองบ้าง ว่าคุณทำเช่นนี้หรือไม่

ในที่ทำงาน..คุณใช้คอมพิวเตอร์ทำงานไปด้วย ขณะเดียวกันก็เปิดเฟซบุ๊คและทวิตเตอร์ตลอดเวลา หรือไม่ก็เช็คอีเมลเป็นระยะๆ หรือเมื่ออยู่บ้าน คุณทำงานไปด้วย พร้อมกับดูรายการทีวีที่ชื่นชอบ

การที่คุณทำหลายๆอย่างไปพร้อมๆกัน คุณจะเสียสมาธิทุกครั้งที่ต้องเปลี่ยนไปทำอีกอย่างหนึ่ง

สิ่งที่ควรทำ : จงเลือกงานเพียงหนึ่งอย่างที่ต้องทำให้เสร็จในวันนั้น เช่น เขียนรายงาน เคลียร์อีเมล จัดเก็บเอกสารเข้าที่ ฯลฯ จากนั้นค่อยเริ่มต้นทำงานชิ้นอื่นต่อไป

3. กินอาหารถูกหลักโภชนาการ (โดยเฉพาะมื้อกลางวัน)  
บรรดาคนเก่งรู้ดีว่า พวกเขาต้องใช้พลังงานทางร่างกายตลอดทั้งวัน นั่นหมายถึง การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ให้ครบถ้วนตามหลักโภชนาการ

จงสำรวจมื้อกลางวันของคุณดูว่า เป็นอาหารประเภทไหน หากคุณชอบทานอาหารฟาสต์ฟู้ด เช่น ไก่ทอด แฮมเบอร์เกอร์ พิซซ่า มันจะทำให้คุณอิ่มท้องไม่ได้นาน แต่การทานมากจนเกินไป ก็อาจทำให้คุณรู้สึกง่วงในตอนบ่ายได้เช่นกัน

สิ่งที่ควรทำ : ควรรับประทานมื้อกลางวันในปริมาณพอสมควร เลือกอาหารที่ให้พลังงานสูง จำพวกธัญพืชที่ผ่านการขัดสีน้อย และโปรตีน คุณอาจทานผลไม้ ถั่ว หรือเมล็ดพืช เป็นอาหารว่างตอนเช้าหรือบ่าย ก็ดีต่อสุขภาพเช่นกัน

4. ยอมรับความช่วยเหลือจากผู้อื่น  
พวกคนเก่งจะไม่ทำงานเพียงลำพัง แต่รู้จักแบ่งงานให้คนอื่นทำแทน งานในบ้านก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของคนในครอบครัว หรือไม่ก็จ้างคนรับใช้ คนสวน เพราะไม่เพียงพวกเขาจะเก่งเรื่องงานในความรับผิดชอบ แต่ยังถนัดบริหารงานบุคคลอีกด้วย

คุณล่ะ..เคยขอความช่วยเหลือจากคนอื่นบ้างหรือเปล่า ถ้าไม่เคย อาจเป็นเพราะคุณกลัวที่จะถูกมองว่าทำงานไม่เป็น

แต่ความจริงก็คือ ไม่มีใครที่สามารถทำงานสำเร็จได้โดยลำพังหรอก ต้องมีคนคอยช่วยเหลือ สนับสนุน (ไม่ว่าจะทางกายหรือใจ) ตลอดเส้นทาง

สิ่งที่ควรทำ : คุณอาจมอบหมายงานที่ต้องใช้เวลามากให้ผู้อื่นทำแทน หรือจ้างคนทำความสะอาดบ้านหรือดูแลสวน แทนที่จะลงมือทำเอง

5. ออกกำลังกายเป็นประจำ คนเก่งมักหาเวลาออกกำลังกายได้เป็นประจำ และมันอาจเป็นหนึ่งในหลายๆสิ่งที่ทำให้คุณแปลกใจ “ทำไมหัวหน้ามีเรี่ยวแรงทำงานได้ทั้งวัน แถมตกเย็นยังไปออกกำลังกายได้อีก ฉันแค่มองเขาทำงาน ก็รู้สึกเหนื่อยแล้ว”

ลองถามตัวคุณเองบ้าง กี่ครั้งแล้วที่คุณชอบพูดว่า “ฉันไม่มีเวลาออกกำลังกาย” มันอาจเป็นเพราะคุณรู้สึกเหนื่อยเกินไปตอนเลิกงาน เมื่อกลับถึงบ้านจึงนั่งจมอยู่กับโซฟาเพื่อดูทีวี เพราะคุณคิดว่าขืนไปออกกำลังยืดเส้นสาย วันรุ่งขึ้นจะไม่มีแรงไปทำงาน

ความคิดนี้ต่างจากคนเก่งทั้งหลายที่ตระหนักดีว่า การออกกำลังกายไม่เคยทำให้คุณเหนื่อย หมดแรง แต่มันทำให้มีเรี่ยวแรง และพละกำลังมากขึ้นต่างหาก

สิ่งที่ควรทำ : ช่วงพักกลางวัน ลองหาเวลาออกกำลังกาย ด้วยการเดินเร็วๆ 15 นาที แล้วคุณจะเห็นถึงความแตกต่าง ที่ทำให้คุณรู้สึกกระชุ่มกระชวยมาก ขึ้นในตอนบ่าย

6. กล้าปฏิเสธเรื่องที่ไม่ต้องการ  
อาจดูเหมือนว่า คนที่เก่งต้องทำทุกสิ่งทุกอย่างได้ แต่ในความเป็นจริง พวกเขากล้าพูดปฏิเสธในเรื่องที่ขัดแย้งกับสิ่งที่เขากำลังทำอยู่ อีกทั้งรู้จักจัดลำดับความสำคัญของงาน และปฏิบัติตามนั้น

คุณรู้สึกลำบากใจเมื่อต้องปฏิเสธบางสิ่งบางอย่างหรือใครบางคน.. หรือไม่?

คุณเกรงว่าจะทำให้เขาโกรธ หรือตัวคุณเองรู้สึกแย่เมื่อต้องปฏิเสธคำขอของคนคนนั้น.. ใช่ไหม?

แต่หากคุณรับทุกเรื่องที่เข้ามา ในไม่ช้าคุณจะพบว่า ไม่สามารถทำงานชิ้นใดให้เสร็จได้ตรงเวลา แถมยังด้อยคุณภาพอีกด้วย

สิ่งที่ควรทำ : รู้จักเลือกงานใหม่ๆที่เข้ามา หากคุณไม่มีทางเลือก เช่น หัวหน้าขอให้คุณทำ ควรอธิบายว่า คุณมีงานเต็มมืออยู่แล้ว ถ้ารับงานนี้จะต้องยกเลิกงานอื่น เป็นต้น

7. ลงทุนเวลา เพื่อประหยัดเวลา  
ฟังดูแปลกๆ แต่คนเก่งต่างรู้ดีว่า ทางเลือกที่ฉลาดคือ การใช้เวลาเพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อยในตอนนี้ เพื่อประหยัดเวลาได้มากขึ้นในอนาคต

สำรวจตัวคุณเองซิว่า เคยต้องทนทำงานด้วยวิธีการที่ไร้ประสิทธิภาพ เพียงเพราะคุณ “ไม่มีเวลา” ที่จะคิดหาวิธีใหม่บ้างหรือเปล่า ตัวอย่างเช่น งานบางชิ้นปกติคุณสามารถทำให้เสร็จภายใน 30 นาที แต่หากคุณใช้เวลาเพิ่มขึ้นอีกครึ่งชั่วโมงในการคิดหาวิธีใหม่ที่มีประสิทธิภาพมากกว่า แล้วคุณสามารถทำงาน นั้นด้วยวิธีการใหม่ให้เสร็จในเวลาเพียง 5 นาที ถือเป็นการลงทุนเวลาที่ให้ผลคุ้มค่าอย่างยิ่ง

สิ่งที่ควรทำ : เรียนรู้วิธีลัดในการทำงานต่างๆ เช่น เมื่อต้องใช้คอมพิวเตอร์ทำงาน ก็ควรศึกษาการใช้งานของโปรแกรมต่างๆ ว่ามีปุ่มลัดใดบ้างที่จะทำให้งานเร็วขึ้น

(จาก นิตยสารธรรมลีลา ฉบับที่ 131 ตุลาคม 2554 โดย ประกายรุ้ง)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น